L'CLOCHE comes from the French word for Bell, which is the nickname of the founded this brand. The objective is to create something new and unique. We want to deliver and share the fragrance experience to everyone who has a passion for fragrance. Because we believe that everyone's preferences are different. All my perfumes are unisex. Personally perfume is as invisible wear that can be worn like clothing according to your needs. I make every perfume to have an aromatic scent, with different freshness and sweetness in each style.
L'CLOCHE was founded in 2021 with a commitment to develop and provide scents to use with various products In people's daily lives, efficiency is emphasized and give new experiences with all users. L'Cloche's development approach starts with creating a fragrant scent before developing it into other forms of products. From products to packaging with care for a true user experience.
L’CLOCHE (เลอโคลช) คำแสลงที่ใช้สื่อถึงผลิตภัณฑ์ เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า Bell ซึ่งเป็นชื่อเล่นของผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ และก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างสรรความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อก้าวข้ามสิ่งที่มีอยู่เดิม พร้อมสร้างสถานะที่มีคุณค่าสูงในทุกผลิตภัณฑ์ที่เราอยากส่งมอบและแบ่งปันประสบการณ์ความหอมให้กับทุกท่านที่มีความหลงใหลในความหอม เพราะเราเชื่อว่าความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน น้ำหอมของ เลอโคลช ทุกกลิ่นจะทำแนว unisex แต่หลายคนก็ตีความว่าเป็นกลิ่นผู้ชายมากกว่า ซึ่งอีกซักพักจะออกกลิ่นแนวผู้หญิงมากขึ้นครับ ผมมองว่าน้ำหอมเป็น Invisible Wear ที่เลือกสวมใส่ได้เหมือนเสื้อผ้า ตามความต้องการในแต่ละวัน และผมให้ความสำคัญกับน้ำหอม ที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ดังนั้นผมจึงปรุงน้ำหอมทุกกลิ่นให้มี Aromatic ทุกกลิ่นโดยจะมีความ Fresh และ Sweet ที่แตกต่างกันในแต่ละแนวของน้ำหอมครับ ผู้ปรุงชอบน้ำหอมที่ซับซ้อนด้วยครับ
L’CLOCHE เพิ่งเริ่มก่อตั้งในปี 2021 โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและจัดหากลิ่นเพื่อนำไปใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้คน พร้อมเน้นความมีประสิทธิภาพ และให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้ใช้ทุกท่าน ด้วยเหตุนี้แนวทางการพัฒนาของ L’Cloche จะเริ่มต้นจากการสร้างสรรค์กลิ่นที่หอมขึ้นมาก่อน นำไปพัฒนาเป็นสินค้าในรูปแบบอื่นๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ไปจนถึง packaging อย่างเอาใจใส่ เพื่อประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างแท้จริง
ดอกนาซิสซัส (Narcissus) เป็นไม้ดอกที่มีลักษณะพิเศษคือ ก้านดอกเป็นกระเปาะ มักออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกมีสีเหลือง หรือขาว อาจมีสีส้ม แดง และชมพู ลักษณะดอกคล้ายกับทรัมเป็ต มีใบยาวสีเขียวอ่อน มีหลายสายพันธ์ ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น เดฟโฟดิล โคโรนา และนาซิสซัส พบมากในแถบยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ แอฟริกาเหนือ จีน
อ่านต่อยางไม้หอมเมอร์ (Myrrh) เป็นพืชที่มีหลายสายพันธ์ พันธ์ที่เรียกว่า Commiphora Myrrha เป็นสายพันธ์ที่มักใช้ในการผลิตไม้หอม พบมากในเคนยา เอธิโอเปีย ซาอุดิอารเบีย โซมาเลีย และโอมาน ลำต้นมีหนาม ใบน้อย สูงได้เต็มที่ประมาณเก้าฟุต ยางมีกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆของไม้
อ่านต่อกวางชะมด หรือกวางแวมไพร์ เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก ตระกูลเดียวกับกวาง พบมากตามป่าบนภูเขาสูง ในจีน และเนปาล มีตัวสั้นป้อม สีน้ำตาลแดง หางสั้น ไม่มีเขา ตัวผู้มีเขี้ยวบน ยาวงอกออกมาจากปาก จนบางคนเรียกว่า กวางแวมไพร์ ระหว่างสะดือ กับอวัยวะเพศ จะมีต่อมกลิ่น ที่ให้สารหอม เรียกว่า ชะมดเชียง หรือ กลิ่นมัสค์ (Musk)
อ่านต่อนอกเหนือจากกุหลาบ และมะลิแล้ว ดอกมูเกท์ (Muguet) เป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่นำมาสกัดเป็นส่วนผสมในน้ำหอม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด Muguet หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Lily of the Valley เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นดอกไม้ที่มอบให้แก่กันในวันแรงงานสากล
อ่านต่อ